- tense -

Tense

10:34

แบ่งตามกาลเวลา 3 ช่วงเวลา คือ
- Past        อดีต
- Present   ปัจจุบัน
- Future     อนาคต

แบ่งตามรูปแบบประโยคได้ 4 รูปแบบ คือ
- Simple
- Continuous
- Perfect
- Perfect Continuous



เพราะฉะนั้นเมื่อนำทั้งกาลเวลาและรูปแบบมาจัดเข้าด้วยกัน จะทำให้ tense มีถึง 12 แบบเลยทีเดียว
คลิกที่ชื่อ tense ด้านล่าง จะนำไปสู่ลิ้งขยายความเข้าใจของแต่ละ tense

1. Present Simple
2. Past Simple
3. Future Simple
4. Present Continuous
5. Past Continuous
6. Future Continuous
7. Present Perfect
8. Past Perfect
9. Future Perfect
10. Present Perfect Continuous
11. Past Perfect Continuous
12. Future Perfect Continuous



                                      ▆

วิธีการผันโครงสร้าง tense 
ขอยกข้อความที่แสนเข้าใจง่ายของคุณเอม เพจจีบัน ดอท คอม 
ขอบคุณมากๆค่ะ
                                      ▆


ก่อนอื่นเราดูตารางคร่าวๆ ก็จะเห็นว่าตารางนี้ มี 4 คอลัมน์ กับอีก 3 แถว 
รวมทั้งหมดไฝว้กันออกมาได้เป็น 12 ช่อง





โดยที่หัวตารางด้านบนในแนวตั้ง จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า tense จะมี 4 อัน คือ
1. Simple  2. Continuous  3. Perfect  4. Perfect Continuous
       
ส่วนหัวตารางด้านซ้ายในแนวนอนจะเป็น time (เวลา) จะมี 3 อัน คือ
1. Present ( ปัจจุบัน)  2. Past (อดีต)  3. Future (อนาคต)
       
 ***ค่อยๆ ดูไปด้วยกันทีละคอลัมน์ในแนวตั้ง เวลาอ่านชื่อ tense ก็อ่านช่องด้านซ้ายก่อน 
แล้วก็ต่อด้วยช่องด้านบน 



ช่องแรกคือ Simpleง่ายสุดเลย
       
• Present Simple เป็นแบบที่เราเรียนกันมาง่ายๆ เลย
   Sub + V1 (เติม s/es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์)

       
• Past Simple ก็ง่ายอีก    

   Sub + V2 ไปเลย ในเมื่อ V2 มันก็คือกริยาที่ใช้สำหรับในอดีตอยู่แล้ว
       
 Future Simpleเอา   

   Sub + will + V.inf  โดยที่คำว่า will แปลว่า "จะ"    มันจะทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค ตามด้วย Vinf ก็คือ Verb ที่ไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไรใดๆ ทั้งสิ้น    
หรือแบบที่เราจำกันมาตลอดว่า Sub + will + V1 นั้นแหละ เราก็จำว่า ถ้าจะบอกว่า จะทำนู้น
จะไปนี่ จะเอานั่น เราก็แค่ใช้ “will + verb” ข้างหลังที่ไม่ต้องไปเติมไรให้มันอีก
เพราะ will บอกไปหมดแล้วว่ามันเป็นอนาคต เราเหลือแค่ต้องบอกว่าจะทำอะไร แค่นั้นพอ อย่าเยอะ!

       
       ***ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I will eating. I will eaten. ผิดทันที !!!!!!!!!!*** 




ช่องที่สองคือ Continuous


รูปประโยคของมันจะเป็น V. to be + V.ing
(Verb to be ก็คือ is am are เป็น อยู่ คือ ที่ท่องกันมานั้นแหละ)

       
"มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to be + V.ing โดยที่เราผันตัว V.to be ไปตามเวลาของมัน แต่ V.ing คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Continuous คือ V.ing"
        
 Present Continuous ก็เลยจะเป็น
   S. + is/am/are + Ving   ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks. I'm loves. ผิดทันที!!!
   แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ เป็นรูปประโยคแบบ Passive Voice
   ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm said....ผิดทันที

       
• Past Continuous รูปประโยคเดิมเปี๊ยบแต่ผันตัว is/am/are ให้กลายเป็นอดีต ก็จะได้เป็น
   Sub + was/were + Ving

       
• Future Continuous  

   Sub + will + be + Ving พอเป็นอนาคต เราก็ต้องใช้ “will” มาบอกว่าเรา "จะทำ" แล้วหลัง will      มันต้องไม่เปลี่ยน ไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น “Sub + will + be + Ving” และ “be” ตรงกลาง      นั่นก็มาจาก V. to be ไง จำได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
       
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Continuous ในแนวตั้ง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน
จะมีกรอบสีเหลืองที่เป็น V.to be ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีส้ม คือ Ving ตลอด !!!!!!!!! 




ช่องถัดมาคือ Perfect 
รูปของมันจะเป็น V. to have + V3 (ที่ดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่ยากเลย)
       
มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to have + V3 โดยที่เราผันตัว V.to have ไปตามเวลาของมัน แต่ V3 คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็นPerfect คือ V3"
        
• Present Perfect ก็เลยเป็น 
   Sub + has/have + V3
    ถ้าประธานเป็นเอกพจน์  (He, She,I t, คน สัตว์ ของ 1 อัน) ก็ใช้ "has"
    ถ้าเป็นพหูพจน์ (You, We, They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้ "have"

       
• Past Perfect แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทำ has/have ให้มันเป็น ช่อง 2
  Sub + had + V3   อุต๊ะ ง่ายจิมจิม!!

       
• Future Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า "จะ..." เหมือนเดิม ได้เป็น
   Sub + will + have + V3 เพราะหลัง will บอกแล้วว่า verb มันต้องธรรมดา ไม่เติม ไม่เปลี่ยน        เลยต้องกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 ซะ ได้ Perfect ด้วย แล้วยังเป็น Future อีก


       
***และใช้ have อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ has จำซะว่าเราเน้นบอกว่ามันเป็นอนาคต ส่วน Perfect เราแค่มี have + V3 มันก็ perfect แล้วไง ไม่ต้องไป has ให้มันเยอะ!! ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will had.....  หรือ will v3..... ผิดทันที !!!!!!!!***
        
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect ในแนวตั้ง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน 
       จะมีกรอบสีพีชที่เป็น V.to have ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีชมพู คือ V3 ตลอด !!!!!!!!! 



สุดท้ายก็คือ Perfect Continuous
       
"ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Perfect Continuous มันก็เลยต้องมีทั้ง Perfect คือ have + V3 แล้วก็ Continuous ก็คือ Ving ด้วย รูปประโยคของมันก็เลยเป็น Sub + V. to have + V.3 (ซึ่งในที่นี้คือ been ซึ่งเป็นช่อง 3 ของ be) + Ving"
       
• Present Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น 

   Sub + has/have + been + Ving โดย has/have been ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving ก็บอกความเป็น Continuous จับมาต่อกัน
       
• Past Perfect Continuous จับ has/have มาทำเป็นอดีตซะ ที่เหลือไม่ต้องเปลี่ยน ก็ได้
   Sub + had + been + Ving ซึ่ง had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous ครบ!!!

       
 • Future Perfect Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้ will เมื่อนั้น!  

    Sub + will + have + been + Ving     โดย wil บอกความเป็นอนาคต have been บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous !!!!!
       
       ***ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ใช้***
       will + has + been + Ving ผิดทันที!
       will + been + Ving ผิดทันที!
       will + have + be + Ving ผิดทันที !!!!!!!
       
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect Continuous ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลา ปัจจุบัน อดีต อนาคต
       จะมี Sub + V.to have ในกล่องสีพีช + been แล้วตบท้ายด้วย Ving ตลอด !!!!!!!!!!!





 ขอบคุณ คุณเอม จีบัน ดอท คอม ค่ะ 

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น