9 .เชื่อมข้อความบอกเงื่อนไข
มีคำว่า if , unless , in case , as long as , supposing (that)
providing / provided (that) , on condition (that)คำเหล่านี้มีเพื่อบอกเงื่อนไข ในทำนองที่ว่า
ถ้าฉันทำอย่างนี้ แล้วเธอต้องทำอย่างนั้น
ไปดูวิธีใช้และตัวอย่างเต็มๆเลยดีกว่าจ้าาา
มีคำว่า if , unless , in case , as long as , supposing (that)
providing / provided (that) , on condition (that)คำเหล่านี้มีเพื่อบอกเงื่อนไข ในทำนองที่ว่า
ถ้าฉันทำอย่างนี้ แล้วเธอต้องทำอย่างนั้น
ไปดูวิธีใช้และตัวอย่างเต็มๆเลยดีกว่าจ้าาา
8.เชื่อมข้อความในการกล่าวซ้ำ
มี 3 คำ คือ
or , that is (to say) , in other words
มีความหมายเหมือนกัน คือ กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ , พูดง่ายๆคือ
เราไปดูวิธีใช้กันเลย .. >o<
7.เชื่อมข้อความให้เลือก
ให้เลือกว่าจะเอาอันไหนกันแน่
มีความหมายว่า หรือ , มิฉะนั้น , ไม่อย่างนั้น
มี 3 คำ ได้แก่ or , or else , otherwise
มาดูวิธีใช้พร้อมตัวอย่างกันเลย !! >///<
6.เชื่อมความบอกวัตถุประสงค์
คำต่อไปนี้แปลว่า เพื่อ , เพื่อว่า , เพื่อที่จะ ...
มีการใช้แตกต่างกันนะคะ บางตัว ตามด้วย V.infinitive (กริยาไม่ผัน)
บางตัวตามด้วย Clause งั้นเราไปดูกันเลย อิอิ
5. เชื่อมความขัดแย้ง
+clause
but , yet , still , however , nevertheless , nonetheless , on the other hand +clause
though , although , even though , even if +clause
on the other hand , on the contrary , in contrast , conversely +clause
while , whereas , where +clause
rather , instead +clause
+noun
in spite of , despite , notwithstanding +noun
consequently
, accordingly , therefore , thereby ,
thus
, so , so that , hence , as a consequence , as a result +clause
3.เชื่อมความบอกสาเหตุ
On the grounds of , In consequence of , As a result of , On account of ,
Because of , By reason of , Due to , Thanks to , Owing to , Resulting from +noun
Because , Since , For , As , Seeing that , Now that + clause
2.เชื่อมความสอดคล้อง
what’s more , furthermore , moreover , besides , in addition
+ clause
apart from,aside from,as well as,not to mention,in
addition to,likewise,besides +noun
1.เชื่อมความบอกตัวอย่าง
for example , for instance , e.g. +
clause,noun
i.e. , like , such as , including , namely + noun
to illustrate + clause
Conjunction (คำสันธาน) คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ,กลุ่มคำ
หรือประโยคเข้าด้วยกัน
สามารถแบ่งตามประเภทที่มันเชื่อมได้ดังนี้
คือ คำที่ใช้เชื่อมระหว่างคำนามหรือคำสรรพนามกับคำอื่นๆในประโยค
ex. The phone on
the table is expensive. ( เชื่อมระหว่าง นาม-นาม )
She lives in Tokyo. ( เชื่อมระหว่าง กริยา-นาม )
**หมายเหตุ**
คำที่วางไว้หลัง prep. ต้องเป็นกรรม ex. I went with them. (ไม่ใช้ they)
Prepositions แบ่งตามการใช้งาน 3 แบบ
1. Preposition of Time
2. Preposition of Place & Direction
3. Other types of Preposition
เป็นคำที่สังเกตุง่ายๆ
เพราะมักจะมีเครื่องหมาย อัศจ.เจรีย์ตามมา ! (Exclamation mark)
เช่น Oops! Ouch!
Tada! Bingo! Bravo! Yummy! Yuck! Ick! เป็นต้น
นอกจากจะใช้คำเหล่านี้ตรงๆแล้ว
เรามาดูวิธีทำ Exclamatory Sentences กันเถอะ
Pronoun = คำสรรพนาม (คำที่ใช้แทนคำนาม) แบ่งเป็น 9 ประเภท
1. Personal Pronoun (สรรพนามที่เป็นประธาน)
1. Personal Pronoun (สรรพนามที่เป็นประธาน)
2. Possessive
Pronoun (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)
3. Reflexive Pronoun
4. Definite
Pronouns (สรรพนามเจาะจง)
5. Indefinite
Pronoun (สรรพนามไม่เจาะจง)
6. Interrogative Pronoun
7. Relative Pronoun
8. Distributive Pronoun
9. Reciprocal Pronoun
9. Reciprocal Pronoun
cicada-english
Quantifiers ตอนที่ 10 ( กลุ่ม almost , a large amount , a great deal of , a lot of )
23:06
1.Almost , Nearly = เกือบจะ
2.A large amount / quantity of = มาก (much)
2.A large amount / quantity of = มาก (much)
3.A good / great deal of = มาก ( a lot of )
4.A lot of / lots of /plenty of = มาก
1. Each = แต่ละ
1.1 Each + นามเอกพจน์
ex. Each new day is different.
(=แต่ละวันใหม่แตกต่างกัน)
I enjoy each moment I spend with you.
(=ฉันสนุกกับแต่ละช่วงเวลาที่ฉันใช้กับคุณ)
1.1 Each + นามเอกพจน์
ex. Each new day is different.
(=แต่ละวันใหม่แตกต่างกัน)
I enjoy each moment I spend with you.
(=ฉันสนุกกับแต่ละช่วงเวลาที่ฉันใช้กับคุณ)
1. None of = ไม่มีเลย
1.1 none of + นามนับได้พหูพจน์ + กริยาเอกพจน์หรือพหูพจน์(ใช้ได้ทั้งสอง)
ex. None of my friends is interested. (ไม่มีเพื่อนของฉันที่สนใจเลย)
None of my friends are interested. (ไม่มีเพื่อนของฉันที่สนใจเลย)
None of dogs can fly. (ไม่มีหมาที่สามารถบินได้เลย)
None of dogs cans fly. (ไม่มีหมาที่สามารถบินได้เลย)
1.2 none of + นามนับไม่ได้ + กริยาเอกพจน์
ex. None of the money is mine. (ฉันไม่มีเงินเลย)
None of food is delicious. (อาหารไม่อร่อยเลย)
1.1 none of + นามนับได้พหูพจน์ + กริยาเอกพจน์หรือพหูพจน์(ใช้ได้ทั้งสอง)
ex. None of my friends is interested. (ไม่มีเพื่อนของฉันที่สนใจเลย)
None of my friends are interested. (ไม่มีเพื่อนของฉันที่สนใจเลย)
None of dogs can fly. (ไม่มีหมาที่สามารถบินได้เลย)
None of dogs cans fly. (ไม่มีหมาที่สามารถบินได้เลย)
1.2 none of + นามนับไม่ได้ + กริยาเอกพจน์
ex. None of the money is mine. (ฉันไม่มีเงินเลย)
None of food is delicious. (อาหารไม่อร่อยเลย)
1. Either , Neither + นามนับได้เอกพจน์
Either = ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
Neither = ไม่ทั้งสองอย่าง
Either = ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
Neither = ไม่ทั้งสองอย่าง
All ( คำสรรพนาม ) = ทุกคน/ทุกสิ่ง
all / all of (adj.) +
นามนับได้พหูพจน์
, นามนับไม่ได้
all / all of + noun
with a determiner (ผันกริยาตามนามหลัง
of นะ)
** ดูเรื่อง Determiner(คำนำหน้านาม) คลิกเลย !!
some ,any + นามนับไม่ได้
และ นามนับได้พหูพจน์
some >> ประโยคบอกเล่า
any >> ประโยคปฏิเสธ , ประโยคคำถาม
much + นามนับไม่ได้
many + นามนับได้พหูพจน์
Many a + นามนับได้เอกพจน์ + กริยาเอกพจน์ = Many นามนับได้พหูพจน์ex. Many a student plays table tennis. = นักเรียนจำนวนมากเล่นปิงปอง
Few , A few , Little , A little แปลว่า น้อย
( หลักการจำ few ก็เหมือน ฟิว(เหล็กที่เอาไว้ต่อระบบไฟฟ้า) =นามนับได้ )
- few , A few + นามนับได้พหูพจน์
( หลักการจำ little ก็เหมือน ลิตร(มาตราชั่งน้ำหน้า) = นามนับไม่ได้ )
- little , a little + นามนับไม่ได้
cicada-english
Quantifiers ตอนที่ 2 ( กลุ่ม a large of,a great of,a good number of,a number of,a good many of,several of )
11:24
1. คำเหล่านี้
+ คำนามนับได้พหูพจน์
ทั้งหมดแปลว่า มาก ยกเว้น several แปลว่า หลายๆ
คือ
คำบอกปริมาณ ( adj. ) แบ่งเป็น 11 ประเภท ได้แก่
กลุ่ม A large of
กลุ่ม Few-a few,Little-a little
กลุ่ม Much,Many
กลุ่ม Some,Any
กลุ่ม All,Both
กลุ่ม Either,Neither
กลุ่ม No,None
กลุ่ม Each,Every
กลุ่ม Almost,Nearly
กลุ่ม A large amount of, A good/great deal of
กลุ่ม A lot of,lots of,Plenty of
กลุ่ม Few-a few,Little-a little
กลุ่ม Much,Many
กลุ่ม Some,Any
กลุ่ม All,Both
กลุ่ม Either,Neither
กลุ่ม No,None
กลุ่ม Each,Every
กลุ่ม Almost,Nearly
กลุ่ม A large amount of, A good/great deal of
กลุ่ม A lot of,lots of,Plenty of
- Article เป็นคำนำหน้านามชนิดหนึ่งที่เราคุ้นเคยกัน นั่นก็คือ a,an,the
- a , an >> ใช้กับนามนับได้เอกพจน์
- the >> เมื่อกล่าวแบบชี้เฉพาะ เจาะจง ทั้งเอกพจน์ พหูพจน์ นามนับไม่ได้
- - no article >> ไม่ใช้ทั้ง a,an,the นามพหูพจน์และนามนับไม่ได้
Article เป็นคำนำหน้านามชนิดหนึ่งที่เราคุ้นเคยกัน นั่นก็คือ a,an,the
- a , an >> ใช้กับนามนับได้เอกพจน์
- the >> เมื่อกล่าวแบบชี้เฉพาะ เจาะจง ทั้งเอกพจน์ พหูพจน์ นามนับไม่ได้
- no article >> ไม่ใช้ทั้ง a,an,the นามพหูพจน์และนามนับไม่ได้
- no article >> ไม่ใช้ทั้ง a,an,the นามพหูพจน์และนามนับไม่ได้
Article เป็นคำนำหน้านามชนิดหนึ่งที่เราคุ้นเคยกัน นั่นก็คือ a,an,the
- a
, an >> ใช้กับนามนับได้เอกพจน์
- the >> เมื่อกล่าวแบบชี้เฉพาะ เจาะจง ทั้งเอกพจน์
พหูพจน์ นามนับไม่ได้
- no article >> ไม่ใช้ทั้ง a,an,the นามพหูพจน์และนามนับไม่ได้
- no article >> ไม่ใช้ทั้ง a,an,the นามพหูพจน์และนามนับไม่ได้
คือคำนำหน้าคำนาม ที่แสดงพจน์ และความใกล้ไกลของคำนามตัวนั้นๆ
มี 4 ตัว คือ This That These Those ใช้ได้ 2
ชนิด
1.) ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (ขยายคำนาม)
2.) ทำหน้าที่เป็นสรรพนาม
Numeral ตัวเลขต่างๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. Cardinal Number ( จำนวนจับ )
2. Ordinal Number ( เลขลำดับ )
1. Cardinal Number ( จำนวนจับ )
2. Ordinal Number ( เลขลำดับ )
Possessive Adjective คือ adj. ที่แสดงความเป็นเจ้าของมีหน้าที่ขยายคำนาม
ตามหลังด้วย คำนาม เสมอ !!
มีคำว่า my , your , our , their , his , her , its
ตามหลังด้วย คำนาม เสมอ !!
มีคำว่า my , your , our , their , his , her , its
Genitive คือ Possessive forms of nouns ( คำแสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม )
มีโครงสร้าง 2 รูปแบบ คือ
1. ใช้ Apostephes ( 's )
2. ใช้ of
มีโครงสร้าง 2 รูปแบบ คือ
1. ใช้ Apostephes ( 's )
2. ใช้ of
คำนำหน้านาม เช่น Genitive , Possessive adjective , Numeral , Demonstrative , Article , no Article , Quantifier , Other group เป็นต้น
คำศัพท์ชุด ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ป.4
สุดท้ายแล้ว มาต่อด้วย R-Z กันเลย
GoGo !!
R-Z
คำศัพท์ชุด ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ป.4
อย่ามัวเสียเวลา มาต่อด้วย H-Q กันเลยดีกว่า
ไปโล้ดดดดดดดด วู้วววว
H-Q
คำศัพท์ชุด ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ป.4
>///< คำศัพท์พวกนี้เป็นคำศัพท์ประถมก็จริง
แต่โตแล้วก็ห้ามลืมเด็ดขาดเลยนะ ไม่งั้น แพ้ป.4 แล้วจะอายเค้า !!
A-G
การบอกจำนวน หรือ ลักษณนาม เป็นภาษาอังกฤษ
a pinch of salt = เกลือหนึ่งหยิบมือ
a grain of salt = เกลือหนึ่งหยิบมือ
a lump of sugar = ก้อนน้ำตาล
a mob of rioters = กลุ่มม็อบ
Hiding from The Rain and Snow
ซ่อนตัวจากหิมะ ที่โปรยปรายและสายฝนพรำ
Trying to forget but I won't let go
Looking at a crowded street
พยายามที่จะลืมบางสิ่งแต่มิอาจบังคับใจ
มอง เหม่อไปยังท้องถนนที่มีผู้คนคราคร่ำ
.................
พจน์ของคำนามแบ่งออกเป็น 2 พจน์ คือ
1.Singular Number (เอกพจน์) = คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หนึ่งหน่วย
2.Plural Number (พหูพจน์) = คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หลายหน่วย
แบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้
1. คำต่อไปนี้เหมือนกันทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์
aircraft = สิ่งต่างๆที่สร้างสำหรับเครื่องบิน
herring = ปลาเฮริง
คำนาม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นามนับได้ และ นามนับไม่ได้
1. Countable Nouns ( คำนามนับได้ )
2. Uncountable Nouns (คำนามนับไม่ได้)
หน้าที่ของคำนาม
1.ประธาน (subject)
2.กรรม (object)
3.กรรมตรงและกรรมรอง (Direct and Indirect Object)
4.ส่วนเติมเต็ม (complement) = ทำให้ประโยคมีใจความสมบูรณ์
5. ส่วนขยาย (Modifier)
4.ส่วนเติมเต็ม (complement) = ทำให้ประโยคมีใจความสมบูรณ์
5. ส่วนขยาย (Modifier)
แบ่งออกเป็น 8 ประเภท ได้แก่
1.NOUN (คำนาม) คือ คำที่ใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ
2.PRONOUN (คำสรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนคำนาม
3.VERB (คำกริยา) คือ คำแสดงกริยาอาการต่างๆ บอกการกระทำ
4.ADJECTIVE (คำคุณศัพท์ ) คือ คำที่ใช้ขยายคำนาม บอกลักษณะต่างๆ
5.ADVERB (คำวิเศษณ์) คือ คำที่ใช้ขยายกริยาและคำอื่นๆ
3.VERB (คำกริยา) คือ คำแสดงกริยาอาการต่างๆ บอกการกระทำ
4.ADJECTIVE (คำคุณศัพท์ ) คือ คำที่ใช้ขยายคำนาม บอกลักษณะต่างๆ
5.ADVERB (คำวิเศษณ์) คือ คำที่ใช้ขยายกริยาและคำอื่นๆ
6.CONJUNCTION (คำสันธาน) คือ คำเชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน
7.PREPOSITION (คำบุพบท) คือ คำที่วางหน้าคำอื่นเพื่อบอกตำแหน่ง
8.INTERJECTION (คำอุทาน) คือ คำที่ใช้แสดงอารมณ์
7.PREPOSITION (คำบุพบท) คือ คำที่วางหน้าคำอื่นเพื่อบอกตำแหน่ง
8.INTERJECTION (คำอุทาน) คือ คำที่ใช้แสดงอารมณ์